หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

เพื่อบางสิ่งที่ดีกว่าเดิม

บ่อยครั้ง พระเจ้าทรงใช้เรื่องเศร้าและการทดลองเพื่อสร้างเสริมให้เราเป็นคนดีกว่าเดิม

นักข่าวหญิงคนหนึ่งได้สัมภาษณ์ชายหนุ่มคนหนึ่งจากประเทศอาร์เจนตินา เขาถูกรัฐบาลทหารจำคุกเป็นเวลาหกปี โดยไม่มีการพิจารณาคดี ระหว่างที่ถูกจองจำ ชายหนุ่มคนนี้ถูกทรมานและถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานาน ผู้สัมภาษณ์ถามเขาว่า เขารู้สึกโกรธหรือไม่ที่เขาต้องทนทุกข์ทรมาน และสูญเสียช่วงเวลาหกปีในชีวิตของเขา เขาทำให้เธอแปลกใจ เมื่อเขาตอบว่า "ผมไม่ถือว่าเป็นหกปีที่สูญปล่า ผมฉวยโอกาสนี้ปรับปรุงตนเองให้เข้มแข็ง และทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับพระเจ้าลึกซึ้งมากขึ้น"

ปฏิกิริยาของชายหนุ่มช่วยใหเราเข้าใจว่านักบุญเปาโลหมายถึงอะไร เมื่อท่านเขียนว่า "ใครจะพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ ความคับแค้นใจรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ" แล้วท่านก็ตอบคำถามเองว่า "ไม่ว่าความตายหรือ...ฤทธิ์อำนาจ... ไม่มีสรรพสิ่งใดๆ จะพรากเราได้จากความรักของพระเจ้าซึ่งปรากฏในพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา"

นักบุญเปาโลชี้ประเด็นอย่างชัดเจน ไม่มีคุกใดในโลกที่แข็งแรงแน่นหนา จนความรักของพระเจ้าทะลวงเข้าไปไม่ได้ ไม่มีเรื่องเศร้าใดๆ ในชีิวตที่หนักหนา จนความรักของพระเจ้าทะลวงเข้าไปไม่ได้ ไม่มีเรื่องเศร้าใดๆ ใชีวิตที่หนักหนา จนความรักของพระเจ้าไม่สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นประโยชน์ได้ ไม่มีความทุกข์ยากใดในโลกที่สาหัส จนความรักของพระเข้าไม่สามารถใข้สร้างเสริมให้เราเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้

อันที่จริง บ่อยครั้งที่พระเจ้าทรงใช้เรื่องเศร้าและการทดลองในขีวิตของเรา เป็นเครื่องมือเตรียมเราให้ทำหลายสิ่่งหลายอย่างที่เราคงไม่สามารถทำได้ถ้าเราไม่เคยประสบกับการทดลองเหล่านี้มาก่อน

พระบิดาเจ้าสวรรค์ของเราไม่เคยพรากสิ่งใดไปจากเรา เว้นแต่ว่าด้วการทำเช่นนั้น พระองค์สามารถประทานบางสิ่งที่ดีกว่าให้แก่เรา พระองค์ไม่เคยลบล้างบางสิ่งออกไปจากชีวิตของเรา เว้นแต่ว่าทรงต้องการจารึกบางสิ่งบางอย่างที่งดงามกว่า แทนที่สิ่งนั้น

ผู้ผลิตไวโอลินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเคยกล่าวว่าไม่ที่ดีที่สุดสำหรับทำไวโอลิน มาจากไม่ด้านที่หันไปทางทิศเหนือ เพราะไม้ด้านนั้นต้องต้านลมเหนือที่หนายเย็นจนเนื้อไม่แกร่ง และทำให้เกิดเสียงพิเศษอย่างที่ไม่มีไม้อื่นเลียนแบบได้

นี่คือความจริงสำหรับมนุษย์เช่นกัน บางครั้งเสียงดนตรีที่ไพเราะที่สุดในโลกของเรา มาจากบุคคลที่ผ่านความทุกข์ทรมาน เหตุการณ์ร้ายๆ และการทดลองต่างๆ เช่น แฮนเดิลประพันธ์เพลง Hallelujah Chorus ที่โดงดังของเขา ขณะที่เขายากจนมาก และกำลังเป็นอัมพาตที่ซีกขวาของร่างกาย

บีโธเฟนเป็นบุตรของชายที่ติดสุรา เขาสูญเสียสมรรถภาพทางการได้ยินเมื่ออายุ 28 ปี และเมื่อเขาควบคุมการบรรเลงซิมโฟนีหมายเลข 9 เป็นเครั้งแรกนั้น เขาไม่ได้ยินเสียงดนตรีเลย และไม่ได้ยินเสียงปรบมือกึกก้องภายหลังการแสดงด้วย

จิตรการชาวฝรั่งเศษชื่อมิเยท์ (Millet) เมื่อเขาวาดภาพ Angelus เขาทึกว่า "เรามีเชื้อเพลิงเหลือพอใช้อีกเพียงสองสามวัน และเขาไม่ให้เราอีกแล้วนอกจากเราจะรวบรวมเงินได้มากพอจ่าย" แต่มือที่หนาวจนแทบจับพู่กันไม่ได้นี้ สามารถวาดภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดภาพหนึ่งของโลก

ตอนจบของภาพยนตร์เรื่อง Little Big Man เป็นฉากที่น่าประทับใจมาก ชายชราอินเดียนแดงคนหนึ่งชื่อ Old Lodgeskins กำลังป่วย และตามมองไม่เห็นแล้ว ขณะที่เขาเตรียมตัวตาย เขาภาวนาต่อพระเจ้าว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ที่ทรงสร้างข้าพเจ้าขึ้นมาให้เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ที่ประทานชีวิตแก่ข้าพเจ้า และประทานดวงตาให้ข้าพเจ้ามองเห็น และชื่นชมโลกของพระองค์ แต่ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์มากที่สุดสำหรับการป่วยและตาที่มองไม่เห็นของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้มากกว่าจากสุขภาพและสายตา"

เราย้อนกลับมาหาชายหนุ่มในคุกที่อาร์เจนตินา เขาสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับพระเข้าเจริญงอกงามได้ และทำให้ตัวเองเจริญเติบโตในฐานะบุคคลแม้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว เขาทำเช่นนี้ได้เพราะเขาเลือกที่จะเปิดใจของเขาต่อพระเจ้า และยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าประทานาแก่เขา และเขาทำเช่นนี้โดยไม่รู้สึกขมขื่น สงสารตนเอง หรือบ่นว่า

ถ้าพระเจ้าทรงใช้ความทุกข์ยาก และเรื่องเศร้าในชีวิตของเราเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์แน่นแฟ้นมากขึ้น และให้เราเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มากขึ้น เราก็ควรทำเหนือกับชายหนุ่มคนนี้ เราต้องเปิดใจของเราอย่างสิ้นเชิงต่อพระเจ้า

เราต้องทำอย่างที่บรรดาอัครสาวกทำในพระวรสาร เราต้องมอบขนมปังห้าก้อน และปลาสองตัวของเราให้แก่พระองค์ และยอมให้พระองค์ทรงกระทำต่อสิ่งเหล่านี้ตามที่พระองค์ทรงต้องการ

ถ้าเราทำได้เช่นนี้ เราย่อมมั่นใจได้ว่าพระองค์จะทรงทวีจำนวนสิ่งใดก็ตามที่เรามอบให้พระองค์จนเกินจินตนาการของเรา

สิ่งสำคัญคือหัวใจที่เปิดกว้าง สิ่งสำคัญคือหัวใจที่วางใจ
สิ่งสำคัญคือหัวใจที่เชื่อ สิ่งสำคัญคือหัวใจที่รัก

บทประพันธ์หนึ่งชื่อ "หน้ากระดาษที่พับไว้"
ของผู้แต่งนิรนาม มีข้อความว่า

...ในห้องใต้หลังคา ขณะที่ฝนตกเสียงดังเปาะแปะ
ฉันนั่งพลิกตำราเรียนเล่มเก่าที่ฝุ่นจับ ยับ 
และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
ฉันพลิกมาถึงหน้าหนึ่งที่พับไว้
บนหน้ากระดาษมีลายมือเด็กบันทึกว่า
"คุณครูบอกให้พักเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะเข้าใจยาก" 

ฉันเปิดหน้านั้นและอ่าน แล้วฉันก็ผงกศีรษะ และพูดว่า 
"คุณครูพูดถูก - บัดนี้ฉันเข้าใจแล้ว"

ในตำราชีวิต มีหลายหน้าที่เข้าใจยาก
เราเพียงต้องพับหน้านั้นไว้ก่อน และบันทึกกว่า
"คุณครูบอกให้พักเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะเข้าใจยาก"

แล้ววันหนึ่ง บางทีอาจเป็นวันที่เราอยู่บนสวรรค์แล้ว
เราจะเปิดหน้านั้นออกอ่าน และพูดว่า
"คุณครูพูดถูก - บัดนี้ฉันเข้าใจแล้ว"

นิตยสารแม่พระยุคใหม่
ฉบับที่ 196 ปีที่ 34 กรกฏาคม - สิงหาคม 2014/2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น